h-drive ปรับ 32 ระดับ – โช๊คอัพ (Shock Absorber)เป็นวัสดุอุปกรณ์สำคัญ ที่ช่วยรองรับแรงกระแทก แล้วก็ลดแรงสั่นสะเทือนของรถ มีหน้าที่ช่วยควบคุมการดีดตัวของสปริง-แหนบ หรือตอนล่างให้คล้ายคลึงไปกับสภาวะของผิวถนนในตอนที่รถยนต์วิ่ง โช๊คอัพที่มีคุณภาพสูง จะช่วยลดการเสียดสีแล้วก็การกร่อนของยาง ตลอดจนอะไหล่ตอนล่าง โดยเฉพาะลูกหมาก บู๊ชยาง ระบบกันสั่นสะเทือน ตลอดจนช่วยให้รถยนต์เกาะถนนหนทางก้าวหน้าอีกทั้งทางตรงและก็ขณะเข้าโค้ง
อายุขัยของโช๊คอัพอายุการใช้งานของโช๊คอัพ ขึ้นกับการใช้แรงงานและแนวทางการจัดตั้งที่สมบูรณ์และถูก โดยธรรมดาแล้วจะแก่การใช้แรงงานเฉลี่ยราวๆ 50,000-100,000 กิโลเมตร หรือ 3 ปี โดยผู้ผลิตจะเสนอแนะให้วิเคราะห์โช้คอัพทุกๆ20,000 กิโล แต่ว่าสิ่งที่น่าตกใจคือ จากสถิติรถยนต์เข้าศูนย์บริการพบว่า 1 ใน 4 คันโช้คอัพพังประเภทของโช้คอัพ
ราคา
โช๊คสตรัทปรับเกลียว H-Drive
฿27,900.00
โช๊คสตรัทปรับเกลียว H-Drive แบรนด์ดังจากอเมริกา คุณภาพคุ้มเกินราคาครับ ฟิวลิ่งหนึบนุ่ม ไม่กระด้างใช้ในชีวิตประจำวันได้สบายๆๆ เลย สเปกสินค้า
ตัวสตรัท ผลิตจากอลูมิเนียม น้ำหนักเบา แต่แข็งแรง,ทนทาน ไม่ชำรุดเหลือเสียหายง่าย ไม่เป็นสนิม
ตัวแกนโช้ค เป็นระบบ Mono Tube ตอบสนองพื้นถนน เวลาขับขี่ได้ดี หนึบ มั่นใจทุกการขับขี่ ระบายความร้อนได้เร็วกว่าโช้คเดิม
บูชผลิตจาก ยูริเทน ทนทาน ใช้ได้นาน สามารถปรับ ความสูง-ต่ำ ได้ด้วยการสไลด์กระบอกโช้ค ได้ทั้งคู่หน้าและคู่หลัง โดยที่ไม่ส่งผลกับค่าสปริง สามารถปรับความสูงต่ำได้มากกว่า
สามารถปรับความหนืด ได้ตั้งแต่ 16-32 ระดับ โดยปรับจากนุ่มไปถึงแข็งตามความต้องการได้
-แบ่งตามโครงสร้างของกระบอก ดังเช่นโช้คอัพกระบอกโดดเดี่ยว (Mono Tube) โช้คอัพกระบอกคู่ (Double Tube)
-แบ่งตามรูปแบบการนำไปใช้งาน ยกตัวอย่างเช่นโช้คอัพดำเนินงานจังหวะเดียว โช้คอัพทำงานสองจังหวะ
-แบ่งตามคุณลักษณะ h-drive eco spec h-drive b spec h drive eco spec เป็นต้นว่าโช้คอัพน้ำมัน จะใช้น้ำมันไฮดรอลิคส์เป็นตัวกึ่งกลางดำเนินการเพียงอย่างเดียว โช้คอัพก๊าซ โช้คอัพจำพวกนี้ใส่น้ำมันไฮดรอคอยลิกส์ และก็แก๊สไนโตรเจนเข้าไปข้างในกระบอกโช้คอัพ
อาการ “โช๊คอัพ” ชำรุด
“โช๊คอัพ”ที่ชำรุดทรุดโทรมจะส่งผลให้ระบบรองรับน้ำหนักและก็การบังคับเลี้ยวของรถยนต์แปรไป เป็นต้นว่า รถยนต์จะมีลักษณะอาการโคลงเคลงหรือโยนตัวขณะเลี้ยว ดอกยางสึกผิดปกติ การบังคับรถยากขึ้น และกำเนิดเสียงดัง
“โช๊คอัพ”ทรุดโทรมจะมีผลยังไง
-เกิดการกระแทกอย่างรุนแรง เมื่อโช๊คอัพแตกหรือรั่วซึม โช้คอัพจะไม่สามารถที่จะถ่วงการยึดหรือยุบของสปริงได้ เมื่อล้อบดทับบนก้อนกรวดหรือตกหลุม สปริงจะมีการยุบและยืดตัวอย่างเต็มเปี่ยมจนสุดระยะ ได้ผลให้เกิดการชนของส่วนประกอบ
-เสียการทรงตัว จะควบคุมการขับได้ไม่ดี เพราะเหตุว่าสปริง รวมทั้งระบบรองรับน้ำหนักของรถยนต์จะเต้นกระทั่งลอยจากพื้นถนน และถ้าหากเกิดเวลาที่ขับขี่รถเข้าโค้ง จะก่อให้สมดุลสำหรับเพื่อการทรงตัวของรถอีกทั้งคันเสียไปจนกระทั่งบางทีอาจเกิดอุบัติเหตุได้
-ยางสึกแตกต่างจากปกติ h-drive eco spec h-drive b spec h drive eco spec การชำรุดของโช้คอัพจะมีผลต่อการสึกของยางมากขึ้น โดยยางจะมีลักษณะการสึกเป็นหลุม ลึกเป็นพักๆยางรถยนต์จะสัมผัสกับถนนไม่เต็มหน้า
-ระยะเบรกมากขึ้น การขับขี่รถยนต์ที่มีการทรุดโทรมของโช้คอัพ 50% ส่งผลต่อระยะเบรกที่เพิ่มขึ้น 2.6 เมตร ซึ่งมีความเสี่ยงต่อการเกิดอุบัติเหตุ
-เพิ่มอาการเหาะน้ำ (Hydroplane)การชำรุดของโช๊คอัพ ทำให้เพิ่มการเสี่ยงต่ออาการบินน้ำ ในตอนที่วิ่งบนถนนที่มีน้ำหรือในขณะฝนตก
-มีความเสี่ยงต่ออุบัติเหตุในกลางคืน การชำรุดของโช๊คอัพทำให้รถโคลงเคลงตัว ซึ่งจะมีผลให้ไฟหน้าของรถยนต์ส่องไม่คงเดิม ทำให้คนที่ขับรถสวนมา อาจตาพร่ามัว และนำไปสู่อุบัติเหตุเคล็ดวิธีควรจะรู้แนวทางสำรวจการพังของ “โช๊คอัพ”
-การสังเกตจากสภาพข้างนอก ยกตัวอย่างเช่นบางครั้งก็อาจจะสังเกตจากสภาพการสึกของดอกยาง อาการที่รู้สึกได้จากการขับขี่บนท้องถนนที่ทำให้การขับขี่ไม่นิ่มนวล ซึ่งอาการแตกต่างจากปกติอาจเป็นเพราะเนื่องจากโช๊คอัพ
-เครื่องทดลองโช๊คอัพ (Shock Tester Machine)
-การขับทดลอง (Road Test)
– การเปรียบเทียบกับของใหม่ (Compare with new shock)พิจารณาภาวะโช๊คอัพพื้นฐานด้วยตัวเอง
-ทำเป็นโดยการหยุดรถยนต์นิ่งๆใช้น้ำหนักร่างกายขย่มลงบนตัวถัง ใกล้กับโช๊คอัพตัวที่ต้องการตรวจดู ขย่มลงไปสัก 5 ครั้งแล้วก็ปลดปล่อย ถ้าหากตัวรถจำต้องขยับขึ้นลงอีก 1-3 ครั้ง แสดงว่าโช๊คอัพยังควบคุมความยืดหยุ่นได้ แม้กระนั้นถ้าหากตัวรถขยับขึ้นลงมากยิ่งกว่า 3 ครั้ง มีความหมายว่าโช๊คอัพหมดความหนืด ไม่อาจควบคุมความยืดหยุ่นได้ เรียกว่าโช๊คอัพตาย ไม่สามารถยืดยุบได้ตามธรรมดาข้อควรคำนึงเมื่อเปลี่ยนแปลงโช้คอัพใหม่
-การติดตั้งโช๊คอัพมีรายละเอียดออกจะมาก เพราะฉะนั้นควรจะได้รับการติดตั้งจากช่างผู้เชี่ยวชาญ
-หากแม้โช๊คอัพเป็นอุปกรณ์จุดสำคัญของระบบรองรับน้ำหนัก แม้กระนั้นโช๊คอัพมิได้ทำหน้าที่รับน้ำหนักบรรทุก แต่ว่าเป็นตัวหน่วงเพื่อรถยนต์ได้รับแรงกระเทือนน้อยที่สุด ทำให้ล้อสัมผัสกับผิวของถนนหนทางขณะรถวิ่งได้อย่างสมดุล
-ควรจะหลบหลีกถนนหนทางที่มีสภาพไม่ดี เป็นหลุมเป็นบ่อ เพราะว่าจะมีผลให้โช๊คอัพต้อง h-drive eco spec h-drive b spec h drive eco spec ทำงานมาก
-การขับรถตกหลุมแรงๆหรือขับด้วยความเร็วขึ้น-ลง ลูกระนาด ทำอายุการใช้งานสั้นลง
-หลังการต่อว่าดตั้งโช้คอัพใหม่ๆควรขับรถบนทางเรียบประมาณ 300-500 กม.ก่อน เพื่อเป็นการวอร์มโช๊คอัพ
กลับสู่หน้าหลัก – aseancoffee