ตู้เสื้อผ้าขนาดเล็ก – หากตู้เสื้อผ้าของคุณมีขนาดเล็ก อย่างฉาวโฉ่คุณอาจพบว่า ตัวเองสงสัยว่าจะบรรจุเสื้อผ้า และสิ่งของอื่น ๆ ลงในพื้นที่เล็ก ๆ นั้นได้อย่างไรโดยไม่ทำให้ ของทั้งหมดกลายเป็นของ ยุ่งเหยิงที่รอ ให้ล้นออกมาทันที ที่ประตูเปิด การจัดระเบียบตู้เสื้อผ้าใด ๆ เริ่มต้นด้วยการกำจัดวัชพืช ผ่านสิ่งของของคุณ แต่สำหรับตู้เสื้อผ้าขนาดเล็กคุณ จะต้องใช้ประโยชน์ จากตัวเลือกการจัดเก็บ ที่สร้างสรรค์เพื่อเพิ่มพื้นที่ ใช้สอยให้มากที่สุด
วิธีจัด ตู้เสื้อผ้าขนาดเล็ก
1.นำทุกอย่างออกจากตู้ของคุณ เพื่อให้ได้ความคิดที่ดีว่า ตู้เสื้อผ้าขนาดเล็ก ของคุณมีพื้นที่เท่าไหร่คุณต้องเอาอะไร และทุกอย่างที่ยัดไว้ข้างในออก การทำเช่นนี้จะช่วยให้ จัดเรียงสิ่งของใน ตู้ได้ง่ายขึ้น
2.เรียงลำดับตามเนื้อหา จัดเรียงเสื้อผ้ารองเท้าเครื่องประดับและสิ่งอื่น ๆ ทั้งหมดที่คุณอาจซ่อนอยู่ ในตู้เสื้อผ้าของคุณ สร้างกองแยกสามกอง สิ่งที่คุณต้องเก็บสิ่งที่คุณอาจ ต้องเก็บไว้และสิ่งที่ คุณสามารถกำจัดได้
- วางทุกอย่างบนพื้นหรือบนเตียง วิธีนี้ช่วยให้คุณเห็นภาพสิ่งที่คุณ มีได้ดีขึ้นเพื่อให้คุณสามารถระบุ สิ่งที่ต้องดำเนินการได้ง่ายขึ้น รวมถึงวิธีการจัดระเบียบสิ่งที่คุณมีอยู่
- กำจัดเสื้อผ้าที่เสียหาย หรือเสื้อผ้าที่ไม่ พอดีตัวอีกต่อไป นอกจากนี้คุณควร กำจัดเสื้อผ้าที่คุณไม่ได้สวมใส่อีกต่อไป แม้ว่าจะมีรูปร่างที่ดีก็ตาม
- หากคุณไม่แน่ใจว่าควร เก็บรายการไว้หรือไม่ให้ ตั้งค่าสถานะรายการด้วยริบบิ้น หรือเครื่องหมาย เมื่อคุณใช้ไอเท็ม ให้ลบแฟล็กออก อย่างไรก็ตามหากธงนั้นยังคงอยู่ในครั้งต่อไป ที่คุณจัดระเบียบตู้เสื้อผ้าของคุณ ให้กำจัดสิ่งของนั้นออก คุณยังสามารถหมุนที่ แขวนไปด้านหลังแล้วหมุนกลับ ให้ถูกวิธีเมื่อคุณสวมใส่
- บริจาคหรือทิ้งสิ่งของที่ คุณไม่ต้องการ การปล่อยเสื้อผ้าและสิ่งของอื่น ๆ ที่คุณไม่ต้องการอีกต่อไป จะทำให้มีพื้นที่ว่างมากขึ้น ในตู้เสื้อผ้าขนาดเล็กของคุณจึงทำให้จัดระเบียบสิ่ง ของที่เหลือได้ง่ายขึ้น สิ่งของที่มีสภาพดีควร บริจาคส่วนสิ่งของที่ชำรุดควรทิ้ง
3.นำสิ่งของตามฤดูกาลออกจากตู้ของคุณชั่วคราว หากคุณมีที่ สำหรับเก็บของในระยะยาว เช่นห้องใต้หลังคาหรือท้ายรถ ให้ถอดเสื้อผ้าตามฤดูกาล และสินค้าตามฤดูกาล ส่วนใหญ่ออกจาก ตู้เสื้อผ้าของคุณ เมื่อมันขาดฤดูกาล
- ตัวอย่างเช่นอย่าเก็บของคริสต์มาสไว้ในตู้เสื้อผ้าตลอดทั้งปี ให้เก็บไว้ที่อื่นแทน เพื่อที่คุณจะได้ใช้พื้นที่อันมี ค่านั้นสำหรับสิ่งของอื่น ๆ ที่คุณจะใช้ในตอนนี้
- หากคุณมีโรงรถ ห้องใต้ดินหรือห้องใต้หลังคา คุณสามารถเก็บสิ่งของตามฤดูกาล ไว้ที่นั่นได้
- ตรวจสอบให้แน่ใจ ว่าสิ่งของของคุณ ถูกเก็บไว้ในกล่องพลาสติกที่มี ฝาปิดกันอากาศได้เพื่อป้องกัน ความเสียหายจากความชื้นหรือแมลง
- หากคุณไม่มีพื้นที่ จัดเก็บเพิ่มเติมนอกตู้เสื้อผ้า ของคุณอย่างน้อยควรพิจารณา เก็บสิ่งของตามฤดูกาล ไว้ในที่สูงหรือในพื้นที่ที่ คุณจะไม่ใช้สำหรับสิ่งของที่ คุณต้องการพร้อมที่จะเข้าถึง
4.จัดทำแผนที่พื้นที่ของคุณ ก่อนที่คุณจะเริ่มใส่ทุกอย่าง กลับเข้าไปในตู้เสื้อผ้าให้วัดพื้นที่ การวัดอย่างแม่นยำด้วย เทปวัดช่วยให้คุณกำหนด ได้ง่ายขึ้นว่าจะใส่ทุกอย่าง ลงในพื้นที่ได้อย่างไร
- เมื่อเลือกภาชนะ จัดเก็บที่จะใช้ในตู้เสื้อผ้าของคุณ ให้วัดด้วย การทำเช่นนี้จะช่วยคำนวณจำนวนที่คุณสามารถ ใส่ลงในพื้นที่ขนาดเล็กได้
- นอกจากนี้ยังควรคิดถึงสิ่งที่เหมาะสม สำหรับตู้เสื้อผ้าของคุณ หากเป็นตู้เสื้อผ้าขนาดเล็กก็ไม่น่าจะสามารถเก็บสิ่งของขนาดใหญ่เช่นสกีหรืออุปกรณ์กีฬาได้ ในทำนองเดียว กันคุณจะต้องทำการวัดอย่าง รอบคอบเมื่อพยายามรวม ที่เก็บของแบบแขวน ชั้นวางรองเท้า หรือสิ่งของในองค์กรที่คล้ายกัน เนื่องจากอาจไม่พอดี
วัสดุที่ใช้ทำตู้เสื้อผ้าขนาดเล็ก
- ตู้เสื้อผ้าเหล็ก เพื่อน ๆ มั่นใจได้เลยว่าจะเป็นเฟอร์นิเจอร์ ที่มีความคงทนแข็งแรงแน่นอน เพราะสมัยนี้มีการคัดเลือก เหล็กที่นำมาใช้ในการทำเฟอร์นิเจอร์อย่างดี มีการใช้สาร เพื่อป้องกันการเกิดสนิม ทำให้เฟอร์นิเจอร์ที่ ทำมาจากโครงสร้างเหล็กนั้น มีความคงทนแข็งแรงมากเป็นพิเศษ เราจึงสบายใจได้ เลยว่ามีความคงทนแข็งแรง อย่างแน่นอน
- ตู้เสื้อผ้าไม้ ไม้ที่ใช้เป็นวัสดุ ในการผลิตตู้เสื้อผ้าไม้ จำแนกได้เป็น 2 ประเภทหลัก ๆ คือ ไม้จริง และไม้ MDF ซึ่งมีคุณสมบัติที่แตกต่างกันโดยเฉพาะเรื่องอายุการใช้งาน
- ตู้เสื้อผ้าไม้จริง จะมีอายุการใช้งานที่ยาวนานกว่า มีความแข็งแรง คงทนกว่า แต่ราคาจะค่อนข้างสูง เมื่อเทียบกับตู้เสื้อผ้าไม้ที่ผลิตจากไม้ MDF
- ตู้ใส่เสื้อผ้าไม้ ที่ผลิตจากไม้ MDF จะมีอายุการ ใช้งานที่สั้นกว่า เพราะตัวเนื้อไม้อาจบวม พองเมื่อใช้งาน ไปได้สักระยะ ข้อดี คือ มีน้ำหนักเบา มีหลากหลายแบบ หลากหลายสีให้เลือกใช้งาน จึงเป็นที่นิยมใช้ของหลาย ๆ บ้าน
วิธีการดูแลรักษาตู้เสื้อผ้า
1. เลือกจัดเก็บเสื้อผ้าให้เหมาะสมกับการใช้งาน
สำหรับวิธีการเลือกพื้นที่ ในจัดเก็บเสื้อผ้าให้เหมาะสม กับการใช้งาน ถือว่าเป็นสิ่งสำคัญมาก ๆ ที่จะช่วยถนอมตู้เสื้อผ้า ของคุณให้สามารถใช้งานได้นานขึ้น หมดปัญหาเรื่องการยัดเก็บเสื้อผ้าแน่น ๆ จนบานประตูปิดไม่สนิท
และยังช่วยให้เพื่อนๆ ทุกคนสามารถแบ่งพื้นที่ในการจัดเก็บเสื้อ กางเกง กระโปรง ชุดชั้นใน ถุงเท้า หรือชุดเดรส ได้อย่างเป็นระเบียบ และสะดวกต่อการหยิบออกมาใช้งานอีกด้วย
ซึ่งวิธีการก็ง่ายมาก ๆ เพียงแค่เพื่อน ๆ แยกเสื้อผ้าที่สวมใส่เป็นประจำ และเสื้อผ้าที่ไม่ได้สวมใส่เป็นประจำออกจากกัน และนำเสื้อผ้าที่ไม่ค่อยได้ใส่ไปพับเก็บเอาไว้ในลิ้นชัก หรือตู้ชั้นสำหรับแยกพับเก็บเสื้อผ้า
จากนั้นให้นำเอา เสื้อผ้าที่ใส่เป็นประจำไปแขวนเก็บไว้ในตู้เสื้อผ้า โดยการแบ่งเป็นโซนๆ เช่น เสื้อ กางเกง ชุดเดรส เท่านี้คุณก็ไม่ต้อง เสียเวลาในการรื้อค้นตู้เสื้อผ้าเพื่อ นำชุดตัวเก่งออกมาใส่แล้ว
2. คอยดูแลรักษาความสะอาดภายในตู้เสื้อผ้าบ่อยๆ
สำหรับวิธีการ ดูแลรักษาความสะอาดบ่อย ๆ นะคะ จะช่วยลดความเสี่ยงในการเกิดเชื้อราขึ้น ตู้เสื้อผ้าได้ดีมากๆ และยังช่วยป้องกันแมลงต่าง ๆ เข้ามากัดกินตู้เสื้อผ้าของเราได้อีกด้วยค่ะ
ซึ่งวิธีการทำความสะอาดก็ไม่ได้ยาก อย่างที่คิดเลย แต่อาจจะต้องใช้เวลาอยู่สักหน่อย เพราะเพื่อนๆ จะต้องนำเอาเสื้อผ้าและของใช้ทั้งหมดออกมาจากตู้เสื้อผ้า แล้วนำออกไปผึ่งแดด จากนั้นก็ค่อยเข้าไปทำความสะอาดตู้เสื้อผ้า
โดยเริ่มจากการปัดฝุ่นตามตู้เสื้อผ้าออกให้หมด แล้วนำผ้าชุบน้ำบิดหมาดๆ มาเช็ดอีกที และเปิดประตูตู้เสื้อผ้าทิ้งไว้ให้ลมพัดผ่าน เมื่อแห้งแล้วให้นำเอาหนังสือพิมพ์หรือกระดาษอื่น ๆ มาวางรองที่ชั้น และลิ้นชักเพื่อ ช่วยดูดซับความชื้น และการทำความสะอาด ตู้เสื้อผ้าควร ทำประมาณเดือนละ 1-2 ครั้ง เท่านี้ตู้เสื้อผ้าของคุณ ก็จะกลับมาสะอาด ดูสวยเหมือนใหม่
3.เพิ่มความหอมให้กับตู้เสื้อผ้าอยู่เสมอ
สำหรับวิธีการเพิ่มความหอม ให้กับตู้เสื้อผ้าจะช่วยแก้ไขปัญหา เรื่องกลิ่นเหม็นอับในตู้เสื้อผ้าได้ดีมาก ๆ และยังช่วยลดสาเหตุ ที่ทำให้เสื้อผ้าของเรามีกลิ่นเหม็น หรือเชื้อราขึ้น ตู้เสื้อผ้าได้อีกด้วยค่ะ
ซึ่งวิธีการทำก็ไม่ยากเลยค่ะ เพียงแค่เพื่อน ๆ หาซื้อถุงหอมกลิ่นที่ชอบมาใส่ไว้ด้านในตู้ เท่านี้ตู้เสื้อผ้าของคุณก็จะไม่มีกลิ่นอับ เข้ามากวนใจอีกและยังช่วยให้เสื้อผ้าของคุณ มีกลิ่นหอมมาก ยิ่งขึ้นอีกด้วย
4. ตรวจสอบความชำรุดเสียหายของตู้เสื้อผ้าเป็นประจำ
สำหรับวิธีการ ตรวจสอบความชำรุด ของตู้เสื้อผ้านะคะ เป็นสิ่งที่เพื่อนๆ ควรทำเป็นประจำ เพราะจะทำให้เราสามารถ รู้ได้ว่าตู้เสื้อผ้ามี จุดบกพร่อง อยู่ตรงไหนบ้าง เพื่อป้องกัน อันตรายที่อาจเกิดขึ้นในการใช้งาน ไม่ว่าจะเป็นบานประตูหลุด ราวแขวนร่วง ลิ้นชักปิดไม่สนิท หรือตู้โค่นเพราะปลวกกิน
ซึ่งวิธีนี้ก็ไม่ได้ยากเลยค่ะ เพียงแค่เราหมั่นสังเกต ตู้เสื้อผ้าตอนเปิดใช้งาน ถ้ารู้สึกว่ามีจุดไหนผิดปกติ ก็ให้รีบทำการซ่อมหรือแก้ไขทันที เท่านี้ตู้เสื้อผ้าของคุณก็จะสามารถใช้งานได้ นานมากขึ้นแล้วค่ะ