tein endurapro plusราคา – เป็น โช๊คอัพที่มากับโครงสร้างโช๊คในแบบเดียวกับที่ติดรถมา แต่เพิ่มประสิทธิภาพด้วย ระบบ Hydraulic Bump Stopper (H.B.S) ซึ่งจะช่วยดูดซับแรงกระแทกด้วยระบบวาล์วภายในจังหวะยุบตัวสุด หรือ Full Bump เท่านั้น จึงไม่เสียประสิทธิภาพในการควบคุมรถ และไม่ส่งผลต่อประสิทธิภาพในการยึดเกาะถนน รวมถึงช่วยเพิ่มความสบายและความนุ่มนวลในการขับขี่
โดยจะมีให้เลือก ทั้งหมด 2 รุ่น ได้แต่
⁃ Tein Endura Pro ซึ่งได้รับการตั้งค่าความนิ่ม-แข็ง ของโช๊คให้เหมาะสมจากโรงงาน สำหรับรถแต่ละรุ่น
⁃ Tein Endura Pro Plus ซึ่งสามารถปรับระดับความนิ่ม – แข็งของโช๊คได้ 16 ระดับ เพื่อเพิ่มความยืดหยุ่นในการขับขี่ได้
สำหรับราคานั้น ถ้าเป็น Endura Pro ราคาเต็มจะอยู่ประมาณ 19,700 บาท ส่วน Endura Pro Plus นั้น ราคาเต็มอยู่ประมาณ 23,500 บาท รับประกัน 1 ปี โดยไม่จำกัดระยะทาง ทั้ง 2 รุ่น (ทั้งนี้ ก็ขึ้นครับ Promotion และส่วนลด ณ ตอนนั้นด้วย)
ส่วนตัวแล้ว ผมแนะนำให้เลือกเป็น Endura Pro Plus ไปเลย ถ้าไม่ติดเรื่องงบประมาณ เพราะเราสามารถปรับได้ตามความต้องการในแต่ละสถานการณ์ที่เราขับขี่
ในส่วนของการติดตั้งนั้น ผมใช้บริการที่ ร้าน Auto Rebound ซึ่งเป็นตัวแทนจำหน่ายอย่างเป็นทางการของ Tein ประเทศไทย เนื่องจากได้รับคำแนะนำจากเพื่อนๆที่เคยใช้บริการที่นี่มา ซึ่งทางเจ้าของร้านเอาใจใส่และดูแลลูกค้าเอง พร้อมให้ข้อมูลต่างๆได้ครบถ้วน
ว่าแล้วก็ขึ้นเขียงกันเลย โดยก่อนที่จะเริ่มติดตั้งนั้น ทางร้านได้นำโช๊ค Tein ชุดที่จะติดตั้ง มาให้ผมดูและตรวจสอบความเรียบร้อยอีกครั้ง สิ่งที่สังเกตได้ชัดเจนเลยก็คือ กระบอกโช๊คมีขนาดที่ใหญ่กว่าโช๊คติดรถเดิม โดยเฉพาะคู่หลัง ซึ่งผมคิดว่าเป็นส่วนสำคัญที่จะส่งผลให้ประสิทธิภาพในการขับขี่นั้น ดีขึ้น
สำหรับวิธีที่การเปลี่ยนโช๊คนั้น เท่าที่ผมทราบก็คือ จะต้องถอดล้อออก แล้วถอดโช๊คชุดเดิมออกจากตัวรถ จากนั้นก็งัดยางหุ้มเบ้าโช๊คออกเพื่อออกสปริง แล้วนำสปริงใส่ลงผมโช็คชุดใหม่ (กรณีใช้สปริงเดิม) เสร็จแล้วก็ใส่ยางหุ้มเบ้าโช๊ค แล้วก็ประกอบกลับเข้าที่รถ ขันน๊อตให้เรียบร้อย และใส่ล้อคืนตามเดิม เท่านี้ก็เรียบร้อย ฟังดูแล้วเหมือนจะไม่ยาก แต่ผมแนะนำว่าพึ่งผู้เชี่ยวชาญเถอะครับ
นอกจากนี้ หากรถของคุณผ่านการใช้งานมาประมาณ 50,000 กิโลเมตร ขึ้นไป แล้วนำมาเปลี่ยนโช็ค ผมแนะนำให้ตรวจสอบสภาพของยางหุ้มเบ้าโช๊คและยางกันกระแทกด้วย ตามปกติมันจะมีอายุการใช้งานประมาณ 80,000 กิโลเมตร ถ้าเริ่มมีอาการทรุดตัวหรือเสื่อมสภาพลง ผมแนะนำให้เปลี่ยนพร้อมกับโช๊คไปเลย จะได้ไม่ต้องมาถอดโช๊คเพื่อเปลี่ยนในภายหลัง ทั้งนี้คืออยู่กับรถยนต์แต่ละรุ่นด้วย