profender monotube ปรับ8 – เป็นระบบแก๊ส กึ่งน้ำมัน ลูกสูบใหญ่ถึง 46mm เป็นระบบ High Flow ติดตั้งแบบ Up side Down ตัวกระบอก เป็นวัสดุทำมาจากเหล็ก ที่ได้รับรองมาตราฐาน จากประเทศญี่ปุ่น ทำให้มั่นใจได้ว่า ตัวกระบอกนั้น แข็งแรง แข็งแกร่งได้ มาตราฐาน น้ำมันก็ คุณภาพสูง ส่วนตัวแก๊ส จะเป็นไนโตรเจน ซึ่งมีผลทำให้การ ตอบสนองที่ดี ต่อรถยนต์และ ยังฝากน้ำหนัก ของตัวโช้คอัพ ไว้ด้านบน ทำให้ได้ ประสิทธิภาพ ช่วงล่างอย่างเต็มที่ และยังทำให้ฝุ่นโคลนไหล ไปช่วงด้านล่าง ไม่ไปอัดที่ซีล ของโช๊คอัพ สุดยอด ไปเลยโช๊ค profender
การทำงานของ profender monotube ปรับ8
ระบบซับ แทงค์ปรับ 8 มีกระบอก ซับแทงค์ ที่สำรองน้ำมัน ที่มากขึ้นกว่า ระบบโมโน2.0 ถึง25%-30% ทำให้การระบาย ความร้อนขณะ การใช้งานเป็นไปได้ อย่างรวดเร์ว ประสิทธิภาพ ของโช้คอัพซับแทงค์ จึงแทบไม่ดร็อป ตั้งแต่สตาร์ทรถวิ่ง จากต้นทางไป ปลายทางด้วยระยะ ทางไกล ๆ หรือเส้นทาง ที่ย่ำแย่ หลุมบ่อมากมาย ที่โช้คอัพจำเป็น ต้องทำงานหนัก ๆ ก็ไม่ได้ทำให้ โช้คซับแทงค์ ทำงานได้ดี ลดลงเลย คุณภาพและ ประสิทธิภาพสม่ำเสมอ ดีมาก โช้คอัพเนี่ยกลัวมาก เรื่องความร้อนสะสม ในต่างประเทศ เมื่อทดสอบ ถึงกับเอา แผ่นอุณหภูมิ มาแปะไว้ที่ตัวโช้คอัพ และวัดค่าสิ่งนี้กับ เลยทีเดียวนะคะ อีกเรื่องคือหากความร้อนที่โช้คอัพ มากจนเกินไป และซีลน้ำมันทน ไม่ไหว ก็จะเกิดการรั่ว ของน้ำมันได้
ประเภทของโช๊คอัพ profender monotube ปรับ 8
แบ่งตามสื่อการทำงานได้ 2 ระบบคือ
1. โช๊คอัพน้ำมัน ใช้น้ำมันไฮดรอลิค เป็นตัวทำงาน ให้เกิดความหนืด เพียงอย่างเดียว ไม่แนะนำสำหรับ รถที่ต้องใช้ความเร็วสูง เพราะการทำงาน ของน้ำมันไฮดรอลิคจะไหล ผ่านวาล์วภายใน ลูกสูบจึงทำให้ เกิดฟองอากาศ เกิดขึ้นภายใน น้ำมันไฮดรอลิค ซึ่งฟองอากาศ นี้จะทำให้โช๊คอัพ ทำงานได้ไม่ดี เท่าที่ควรเพราะถ้าฟองอากาศ แตกจะทำให้โช๊คอัพ เกิดการขาดช่วง ในการทำงานระยะหนึ่ง เป็นช่วงเวลาสั้น ๆ
2. โช๊คอัพแก็ส เป็นการอาศัย การทำงานร่วมกัน 2 อย่าง ระหว่าง แก๊สไนโตรเจน กับน้ำมันไฮดรอลิค เมื่อโช๊คอัพได้รับ แรงสะเทือนจาก พื้นถนน ลูกสูบของโช๊คอัพก็ จะเลื่อนตัวลงมา ด้านล่างของ กระบอกลูกสูบ ทำให้น้ำมัน อีกส่วนไหลผ่านวาล์วไป จนถึงด้านล่าง และเข้าไปในห้อง น้ำมันสำรอง ขณะเดียวกันน้ำมันใน ห้องน้ำมัน สำรอง จะทำการอัด แก๊สไนโตรเจน ให้เกิดแรงดัน เมื่อแรงดัน เกิดขึ้นก็จะ ทำให้เกิดฟองอากาศ แตกตัว จึงมีข้อดีตรงที่ ทำให้รถมีความ นุ่มนวลขณะขับขี่ ลดแรงกระแทก ได้มากกว่า แต่ก็มีราคาที่สูงกว่า โช๊คอัพน้ำมัน เช่นกัน
อาการแบบไหนที่เป็นสัญญาณเตือนว่าเราควรไปหาร้านจำหน่ายโช๊คอัพได้แล้ว
1. ถ้ากดที่ด้านหน้า ของรถแล้วปล่อย รถมีอาการเด้ง ขึ้นเด้งลงหลาย ๆ ครั้งนั่นแปลว่า โช๊คอัพของคุณอาจ เสื่อมสภาพแล้ว โช๊คอัพ ที่ดีเมื่อออกแรงกด จะไม่เด้งไปมาแต่ จะยุบตัวและคืนตัว เป็นระดับปกติ ทันที แต่อย่างไรก็ ตามวิธีนี้ไม่สามารถ ชี้ชัดอาการอย่าง แน่นอนได้ เนื่องจาก การออกแบบช่วงล่าง ของรถบางรุ่นที่ต้องการ ความนุ่มนวล จะมีการให้ตัว ของรถมากกว่าปกติ
2. ตรวจพบน้ำมัน รั่วซึมจากตัว โช๊คอัพ หากมีฝุ่นหรือ เศษดินทรายเกาะ บริเวณจุดที่รั่วซึม นั้นแปลว่าโช๊คของคุณ เริ่มมีปัญหาแล้วไป ร้านจำหน่าย โช๊คอัพด่วน
3. ยางรถยนต์ มีอาการสึก ไม่เรียบเสมอกัน
4. แกนโช๊คอัพ ไม่อยู่ในสภาพ พร้อมใช้งาน เช่น คดงอ บุบ บิดเบี้ยว เป็นต้น
5. รถมีอาการสั่น ยากต่อการบังคับ เมื่อสัมผัส กับผิวถนนที่มี สภาพขรุขระ หรือมีอาการเหินน้ำ เมื่อวิ่งอยู่บนน ถนนเปียก นอกจากนี้ยัง สามารถสังเกตอาการได้จากหน้าเชิด ขณะออกตัว และหน้ารถจะทิ่มลง เมื่อเบรกที่ความเร็วต่ำ ควรไปพบร้านจำหน่าย โช๊คอัพอย่างไม่ ต้องรีรอ
6. เมื่อมีลมมา ปะทะที่ความเร็วสูงรถ จะเสียการทรงตัว แบบผิดปกติ อย่างที่ไม่เคย เป็นมาก่อน
7. รถมีอาการโยก คลอนขึ้นลง ไม่นิ่มนวล เมื่อมีการแล่น ผ่านทางลาดชัน เนินสะดุดต่าง ๆ
8. เมื่อจอดรถ ลองสัมผัส ที่ตัวโช๊คอัพ ถ้ารู้สึกร้อน แสดงว่าโช๊คอัพ ยังทำงานอยู่
วิธีเลือกโช๊คที่เหมาะกับตัวเราก่อนไปที่ร้านจำหน่ายโช๊คอัพ
1. ควรดูลักษณะ การขับขี่ของคุณ ว่าเน้นขับช้า หรือขับเร็วและตัวคุณ ตั้งงบประมาณ ไว้ที่เท่าไหร่
2. ในที่กรณีขับช้า ขับชิว ๆ สบาย ๆ ไม่รีบเร่ง ขับในเมือง ถนนขรุขระถ้า เน้นในเรื่องของความนุ่มนวล โช๊คและสปริงก็ควรจะนุ่มตามไปด้วย โดยแนะนำค่า K ของสปริงสัก 3.5K
3. กรณีชอบขับเร็ว ชีวิตเร่งรีบทุกวินาทีมีค่า วิถีนักบิดอยู่ในสายเลือด ช่วงล่างก็จะต้องไม่ย้วย เพราะเวลาเข้าโค้งจะไม่เกิดอาการเหวี่ยง โดยแนะนำโช๊คแต่ง สปริง 4K-6K ขึ้นไปตามความชอบ ส่วนโช๊คระดับนี้ส่วนใหญ่จะมาพร้อมสปริง ง่ายที่สุดเพราะมาเป็นคู่ ทำไว้เหมาะสมแล้ว โช๊คอัพแต่งราคาจะสูงขึ้นมาหน่อย มีราคาตั้งแต่ 30,000 ไปจนถึง 60,000 เลยทีเดียว
กลับสู่หน้าหลัก – aseancoffee