gps รถขนส่ง
gps รถขนส่ง – สำหรับ GPS ติดรถบรรทุก นั้นไม่เพียงแต่ใช้เพื่อตรวจสอบตำแหน่งรถเท่านั้น แต่ยังมีคุณสมบัติรองรับการใช้งานที่หลากหลายและยังรวมถึงการรายงานข้อมูลต่างๆทั้งตัวรถและผู้ขับขี่ ซึ่งมีส่วนช่วยในการจัดการขนส่งให้มีประสิทธิภาพและความปลอดภัยสูงสุดให้กับธุรกิจของคุณอย่างแน่นอน ประโยชน์ที่ผู้ใช้งานหรือบริษัทได้รับจากการ ติด GPS รถบรรทุก มีอะไรบ้าง?รับจากการติด gps รถ ขนส่ง กันดีกว่าว่าจะมีอะไรบ้าง!
8 เหตุผลที่ควรเลือกใช้บริการ GTSติด GPS รถยนต์ ประสบการณ์มากกว่า 8 ปี การันตีด้วยประกาศนียบัตรมากมาย ทีมวิศวกรชั้นนำระดับประเทศ พัฒนาซอฟต์แวร์ระบบโลจิสติกส์ให้ทันสมัยอยู่เสมอ Call Center 24 ชั่วโมง โทรกลับหาลูกค้าทุกสายหากคู่สายเต็ม ศูนย์บริการมืออาชีพมากกว่า 50 จังหวัด ให้ลูกค้ามั่นใจสามารถเข้าแก้ไขได้ทุกที่ ผ่านการรับรองกรมการขนส่ง ออกใบรับรองได้ภายใน 1 ชั่วโมง รับประกันอุปกรณ์ตลอดอายุการใช้งาน ภายใต้สัมปทาน 3G โปรแกรมใช้งานง่ายเพียง 2 คลิ๊ก ตรวจสอบข้อมูลได้อย่างรวดเร็ว บริการหลังการขายดีเยี่ยม พูดคุยเป็นกันเองไม่ทอดทิ้งลูกค้า
1. ช่วยลดอุบัติเหตุทางรถยนต์ และลดความสูญเสียทั้งชีวิตและทรัพย์สิน เนื่องจากสาเหตุการเกิดอุบัติเหตุส่วนใหญ่เกิดจากการขับรถเร็วเกินกฎหมายกำหนด ดังนั้น GPS สามารถช่วยในการควบคุมความเร็วในการขับขี่ได้ โดยจะมีสัญญาณแจ้งเตือนดังขึ้น จนกว่าจะมีความเร็วลดลง และมีการข้อมูลไปยัง กรมการขนส่งทางบก ซึ่งความเร็วที่กฏหมายกำหนดคือ รถบรรทุก10ล้อ กำหนดความเร็วที่ 80 กิโลเมตรต่อชั่วโมงทุกพื้นที่ที่รถวิ่งเข้าไปในเขตนั้นๆ เพื่อออกหนังสือไปยังผู้ประกอบการหรือเจ้าของรถ และรถหัวลาก กำหนดความเร็วที่ 60 กิโลเมตรต่อชั่วโมง
2. ป้องกันรถหาย / กู้คืนรถได้เมื่อถูกโจรกรรม การแจ้งเตือนเมื่อประตูรถถูกเปิด หรือถูกสตาร์ทผ่าน SMS หรือ ทางแอปพลิเคชันของ GPS ตรวจสอบและติดตามตำแหน่งของรถที่แน่นอนได้ตลอดเวลา ที่เราใช้งานอยู่ อีกทั้งยังสามารถสั่งตัดไฟหรือดับเครื่องยนต์ผ่านระบบออนไลน์ซึ่งง่ายต่อการติดตามกู้คืน
3. ป้องกันการทุจริตจากพนักงาน/คนขับรถ บ่อยครั้งที่บริษัทหรือผู้ประกอบการพบปัญหาพนักงานทุจริต เช่น แอบแวะพักเป็นเวลานาน โกงน้ำมัน แอบออกนอกเส้นทาง เป็นต้น ซึ่ง GPS จะช่วยในการตรวจสอบและติดตามการใช้งานของยานพาหนะแบบ Realtime ได้ทำให้เราสามารถเช็คได้ว่า ปัจจุบันรถกำลังมุ่งหน้าไปทางไหน? มีการจอดพักที่ตำแหน่งใดบ้าง? เป็นเวลานานเท่าไหร่? การระบุตัวตนของผู้ขับ และแสดงปริมาณน้ำมันที่เหลืออยู่
4. ช่วยลดค่าใช้จ่าย และเพิ่มประสิทธิภาพในการดำเนินงานโดยกฏหมายกำหนดว่าจะต้องขับติดต่อกันไม่เกิน 4 ชั่วโมงสามารถวางแผนการใช้เส้นทางและเชื้อเพลิงเพื่อลดค่าใช้จ่าย กรมการขนส่งทางบกและผู้ประกอบการ เพื่อใช้ในการคำนวนเวลาในการขับรถ อีกทั้งยังมีระบบรายงานพฤติกรรมการขับขี่หลากหลายประเภทเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการทำงาน นอกจากนี้ผู้ขับขี่จะต้องทำการรูดบัตรกับเครื่องรูดบัตรที่ติดตั้งอยู่ในรถบรรทุกก่อนทุกครั้ง ข้อมูลบนจะถูกส่งไปยัง และต้องหยุดพักเป็นเวลา 30 นาที เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการขับขี่เช่นกัน
GPSที่กรมการขนส่งทางบกรับรอง
หลักการทำงานของ GPS ที่กรมการขนส่งทางบกกำหนด
ผู้ประกอบการสามารถดูตำแหน่งรถและรายงานต่าง ๆ ได้ทางหน้าจอคอมพิวเตอร์หรือมือถือ คนขับรถรูดใบขับขี่ก่อนขับรถหากไม่รูดบัตร หรือ ใช้บัตรผิดประเภทจะมีเสียงร้องเตือนจนกว่าจะใช้บัตรที่ถูกประเภท เครื่อง GPS จะส่งข้อมูลคนขับรถและตำแหน่งพร้อมความเร็วไปยัง Server โดยผ่านระบบเครือข่ายสัญญาณมือถือ สามารถดูตำแหน่งย้อนหลังได้ 12 เดือน ข้อมูลจะถูกส่งตรงไปยังกรมการขนส่งทางบกตลอด 24 ชม.